วี้ดดดดด!! กลับมาเมาท์ต่อแล้วค่ะ!!
หลังจากเล่าเรื่องที่ไปตามรอย FREE! ที่คินไดมาคราวที่แล้ว
ก็หายไปเกือบ 2 ปี
จริง ๆ ก็ไม่ได้หายไปเลยซะทีเดียว แต่เราเอาเรื่องที่ไปต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิไปเมาท์ในทวิต
แล้วมันยาวมากก็ขี้เกียจขนย้ายข้อมูลมาลงในนี้
แต่บังเอิญว่าปลายเดือน 7 ปีนี้เราไปตามรอย Free! อีกครั้ง
รวมกับที่เห็นข่าวในทวิตเตอร์มาว่าต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิกำลังจะปิดในวันที่ 14 เดือน 7 ปี 2017
เลยคิดว่าควรเอามาเล่าในบล็อกให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกทีดีกว่า
(*อัปเดต 2017.08.13* เรื่องที่ว่าต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิกำลังจะปิดนั้นสรุปว่าปิดจริง ๆ นะคะ
เมื่อวันที 23 เดือน 7 ที่ผ่านมาเราแวะไปดูมาแล้ว มีการปิดสถานที่เตรียมทุบทิ้งจริง ๆ ค่ะ
เห็นแล้วก็ใจหายอยู่เหมือนกัน อ๊ะ! แต่ตอนที่เราไปนี่เค้ายังไม่ได้ทุบอาคารนะ
แต่พื้นที่รอบ ๆ ก็โดนทยอย ๆ โดยเคลียร์ไปที่ละหน่อยแล้วค่ะ
คาดว่าช่วงเดือน 8 นี้ถ้าไปดูอาคารจากข้างนอกน่าจะยังทันนะคะ )
เอาล่ะค่ะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ
【ต้นแบบร.ร.อิวาโทบิ】
สถานที่ คือ 岸和田市立福祉総合センター (ข้อมูลเพิ่มเติม)
เอาง่าย ๆ (?) ก็คือศูนย์ 福祉総合 (ไม่รู้จะแปลว่าไง...) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองคิชิวาดะในโอซาก้า
ถ้าลองเอาชื่อ 岸和田市立福祉総合センター ไปเสิร์ชดู
จะเห็นว่าตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟสถานีคิชิวาดะมาก
ซึ่งพอไปแล้วมันก็ใกล้จริง ๆ นะ
วิธีการเดินทางไป 岸和田市立福祉総合センター
(เนื่องจากคราวที่แล้วก่อนจะไปต้นแบบรร.อิวาโทบินี่เราไปคินไดต้นแบบซาเมะสึกะมาก่อน
การเดินทางเราเลยตั้งต้นที่สถานีนางาเสะ ที่เป็นสถานที่ตั้งของคินไดนะคะ)
เริ่มจากสถานี Nagase ก็นั่งรถไฟสาย Kintetsu Osaka Loop Line ไปลงสถานี Tsuruhashi
พอถึงสถานี Tsuruhashi ให้เปลียนรถไฟมาเป็นสาย Osaka Loop Line
แล้วก็นั่ง Osaka Loop Line ไปลงสถานี Shin-Imamiya เพื่อเปลี่ยนรถไฟอีกครั้งนึง
จากสถานี Shin-Imamiya ให้ขึ้นรถไฟ Nankai Ltd. Exp. หรือ Nankai Airport Exp.
แล้วก็นั่งกันยาว ๆ ไป 20 นาทีจนไปถึงสถานี Kishiwada ที่เป็นจุดหมายปลายทางของเราเลย
เมาท์นิดนึง...ด้วยความที่ระยะทางกว่าจะไปถึงสถานี Kishiwada มันไกลเนอะ
ระหว่างทางก็มีคนขึ้นลงรถไฟสับเปลี่ยนกันไปบ่อย ๆ ซึ่งมันก็ปกติ
แต่ที่มันดีคือช่วงเวลาที่เราไปมีเด็กนักเรียนม.ต้น ม.ปลาย ขึ้นรถไฟหลายรร.มาก
เห็นยูนิฟอร์มหลายแบบเลย ก็ยอมรับว่าค่อนข้างอิ่มเอม ฮี่~
เพิ่มเติม : การเดินทางจากสถานี Tsuruhashi ไปสถานี Kishiwada เนี่ย
ถ้าเสิร์ชจากกูเกิ้ลหรือแอปฯอื่น ๆ มันจะแนะนำอีกเส้นทางนึงไว้ด้วย
คือ นั่งรถไฟจากสถานี Tsuruhashi ไปเปลี่ยนสายรถไฟเป็น Nankai line ที่สถานี Nankai Namba
แต่เราไม่ไปทางนั้น เพราะเรามองว่ามันต้องเดินเยอะกว่าตอนเปลี่ยนสายรถไฟ (ขี้เกียจ )
คือถ้าลงที่สถานี Shin-Imamiya อะมันไม่ต้องเดินไปไหนไกล
แค่หันหน้าหันหลังก็เปลียนสายรถไฟได้แล้ว
พอมาถึงสถานี Kishiwada ให้ออกทางออกตามในรูปข้างล่างนี้เลยนะคะ
พอเดินออกทางออกที่วงไว้มาแล้วก็ให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอถนนแบบนี้นะคะ
ก็เดินตรงไปเลย เดินไปก็มองซ้ายมือตัวเองไว้นะคะ
ต้นแบบรร.อิวาโทบิตั้งอยู่ทางซ้ายมือของถนนนี้แหละค่ะ
เดินไปเรื่อย ๆ ไม่ไกลเลยค่ะ ใกล้มาก
เราก็จะเห็นตึกอันคุ้นตา นี่แหละค่ะ!! ต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิ!!
ตอนไปเห็นก็ดีใจนะคะว่าเจอตึกแล้ว แต่ทั้งตึก ทั้งประตูรั้ว เก่ามากเหลือเกิน
จนแอบคิดว่า เอ๊ะ? นี่เค้ายังให้เข้าได้หรือเปล่านะ?
แต่จากที่ส่อง ๆ (?) ดูสำนักงานข้างในก็ดูเปิดทำงานกันปกติ
แถมตอนที่ไปยังมีเด็ก ๆ ให้ชุดวอร์มทั้งวิ่ง ทั้งซ้อมเบสบอลกันอยู่ด้วย
เพราะงั้นก็เลยมั่นใจว่ายังไงก็เข้าได้ล่ะค่ะ
มาถึงก็ต้องทำพิธีอัญเชิญมันจูมาโกะฮารุมาถ่ายรูปในฐานะเจ้าถิ่นกันนิดนึงเนอะคะ
พอเข้าไปข้างในได้ด็เดินถ่ายรูปรอบ ๆ ไปเรื่อย ๆ
ตอนแรกก็เกร็ง ๆ แต่ก็ดูไม่มีใครสนใจการมาของเราเลย
น่าจะเพราะมีคนเข้าออกเป็นปกติอยู่แล้วด้วยล่ะมั้ง
แต่มันมีปัญหา (สำหรับเรา) อยู่...
ปัญหาที่ว่า คือ เราจะเข้าไปในตึกที่เป็นต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบินี้ได้ยังไง
คืออุตส่าห์มาทั้งทีจะให้ถ่ายรูปแค่ข้างนอกก็ไม่ใช่ถูกมะ?
ยังไงก็ต้องขึ้นไปบนตึกด้วยสิ
แต่เราอะ...คิดว่าจะเข้าไปบนตึกเค้านี่ยังไงก็ควรจะขออนุญาตหรือเปล่า?
เราเลยไปเดินหาคนที่พอจะสอบถามและขออนุญาตได้ แต่ก็ไม่มีใครเลย
เราเลยเดินไปตรงสำนักงานที่เค้าทำงานกันอยู่
แต่ทุกคนเค้าดูวุ่นวาย ๆ มีงานทำกันยุ่งไปหมดเลย
แบบ...ทุกคนดูยุ่งมากกกกกจนเราไม่กล้าจะไปเอ๊ะอ๊ะอะไรกับใครเลย
อีกอย่างภาษาก็ใช่ว่าจะได้ คุยแล้วจะรู้เรื่องมั้ยก็ไม่รู้ ไปสร้างปัญหาให้เค้าอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
สุดท้ายก็เดินวนไปวนมาพยายามให้ใครสักคนสังเกตเห็น แต่ไม่มี
เลยตัดสินใจจะเดินขึ้นตึกเอง อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
พอเข้าไปในตึกก็จะเห็นว่า ชั้น 1 มันปิดทางเดินไว้ แต่มีห้องนึงตรงที่ติดประตูเปิดอยู่
แต่ตอนที่เราไปเหมือนเค้าเพิ่งทำกิจกรรมอะไรสักอย่างกันไป
แล้วเค้าทำความสะอาดกันอยู่
เราเลยเดินขึ้นบันไดไป ชั้น 2 เลย
และความสะพรึงก็เริ่มตรงที่ขึ้นบันไดนี่แหละ
แค่ขั้นแรกก็จะร้องแล้วอะ
ก็อย่างที่เห็นข้างนอกอะเนอะว่าตึกมันเก่ามากกกกกกกก
ข้างในก็เก่าไม่ต่างกัน แล้วคิดดูบันไดไม้เก่า ๆ อะ
เหยียบทีก็ลั่นเอี๊ยดอ๊าดไปหมด
ดังแบบมั่นใจเลยว่าไม่ทางที่คนอยู่ชั้น 1 จะไม่ได้ยิน แต่ก็ไม่มีใครมาเอ๊ะอ๊ะอะไรเราอยู่ดี
เลยลุยขึ้น ชั้น 2 ชั้น 3 ไปเลย
เดินขึ้นมาก็เห็นทางเดินที่คุ้นตา ถ้ามีหนุ่ม ๆ ชมรมว่ายน้ำวิ่งไปวิ่งมานี่ก็ใช่เลย
ดูกระจกสิ...มีเทปกาวปิดไว้ ก..ก็เก๋ดีล่ะมั้ง...บ้าเรอะ!! มันเก่าขนาดนั้นเลยแหละค่ะ ฮือออ
ด้วยความที่ในตึกมันทั้งเงียบ ทั้งเก่า แถมเราก็ไปคนเดียว
เอาตรง ๆ ก็กลัว อะค่ะ
คิดได้งั้นก็รีบควักเอามาโกะฮารุมาถ่ายรูปเท่าที่พอถ่ายได้
แล้วก็ค่อย ๆ ย่อง (เดินแรงเดี๋ยวมันลั่น...) ลงบันไดออกมาจากตึกเลยค่ะ
อ๊ะ! ลืมบอกไปอย่างว่า...ตึกนี่ตรงบันไดมันมืดมากเลย ไม่มีรูรับแสงอะไรเลย
มีแค่แสงที่ลอดมาจากแต่ละชั้น ซึ่งก็ไม่มาก
ที่น่ากลัวสุดก็ตรงบันไดที่ต่อจาก ชั้น 3 ขึ้นไปทางออกที่ยื่นไปบนดาดฟ้า
ตอนแรกไม่ได้สังเกตว่าตึกมันมีแค่ 3 ชั้น นี่เกือบเดินจากชั้น 3 ไปดาดฟ้าซะแล้ว
ดีที่มันมืดมาก และนี่ก็ใจไม่สู้เลยถอย พอจะกลับยังคิดอยู่เลยว่าดีที่ไม่เดินขึ้นไป
(นี่ไปตามรอบอนิเมะหรือไปล่าท้าผีเนี่ย...ความขี้กลัวของตัวฉันนี่มัน...)
เอาเป็นว่า...การตามรอยหนุ่ม ๆ ว่ายน้ำที่ต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิก็จบเท่านี้ล่ะค่ะ
หลังจากนี้เราจะนั่งรถไฟไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูจัง
เพื่อไปดูฉลามวาฬตัวโต ชื่อ ยูจัง กันค่ะ
(ไว้ไม่ขี้เกียจจะมาเล่าต่อนะคะ )