กลับมาเมาท์ต่อ
ตามคาด...เนื่องจากตอนกลางคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว~ (อ้างอิงจาก Part.1)
จากที่เราวางแผนไว้ว่าจะออกไปเที่ยวตั้งแต่เก้าโมงเช้า เอาเข้าจริงเก้าโมงนี่เพิ่งตื่นเลยค่ะ
ตามแผนที่วางไว้แบบเผื่อเวลาสุด ๆ วันนี้เราจะไปทั้งหมด 3 ที่
คือ มหาวิทยาลัยคินคิ, ต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง
แต่บล็อกนี้เราจะเล่าแค่ที่แรก คือ มหาวิทยาลัยคินคิ
(Edit: ล่าสุดช่วงปี 2016 มหาวิทยาลัยคินดิ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยคินได แล้วนะคะ)
แต่บล็อกนี้เราจะเล่าแค่ที่แรก คือ มหาวิทยาลัยคินคิ
(Edit: ล่าสุดช่วงปี 2016 มหาวิทยาลัยคินดิ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยคินได แล้วนะคะ)
มหาวิทยาลัยคินคิ (ต้นแบบซาเมะสึกะกักคุเอ็น)
มหาวิทยาลัยคินคิ เป็นสถานที่ต้นแบบของซาเมะสึกะกักคุเอ็น (鮫柄学園)
หรือก็คือโรงเรียนที่ริน โซสึเกะ ไอ และพี่น้องมิโคชิบะเรียนอยู่นั่นเองค่ะ
ต่อจากนี้เราของเรียกที่นี่ว่า "คินได" แล้วกันนะคะ
ต่อจากนี้เราของเรียกที่นี่ว่า "คินได" แล้วกันนะคะ
การเดินทางไปคินได
เราจะเริ่มแบบกลาง ๆ แล้วกันเนอะ
(จริงๆกูเกิ้ลเอาก็ได้ แต่อยากเล่า )
โดยจะตั้งต้นที่รถไฟสาย Osaka Loop Line ก่อน
เอาง่าย ๆ ก็ขึ้นจากสถานนีไหนก็ได้ที่ Osaka Loop Line ผ่าน
นั่ง Osaka Loop Line ไปลงสถานี Tsuruhashi (鶴橋)
พอมาถึงสถานี Tsuruhashi ให้เปลี่ยนสายรถไฟ
จาก Osaka Loop Line ไปเป็น Kintetsu Osaka Loop Line
จาก Osaka Loop Line ไปเป็น Kintetsu Osaka Loop Line
ตรงนี้ถ้างง ไม่รู้จะเปลี่ยนสายรถไฟตรงไหนก็ตรงไปถามเจ้าหน้าที่เลยค่ะ เร็วสุด...
เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟแถบคันไซที่เราเจอน่ารักทุกคนนะคะ
(ไม่เหมือนที่นาโงย่า เจ้าหน้าที่ชอบทำหน้าดุใส่ *แอบเม้าท์*)
ง่าย ๆ ก็แค่พูดชื่อสถานีปลายทางที่เราจะไปเลยค่ะ เค้าก็จะบอกเราว่าต้องไปทางไหน
จากนั้นก็นั่ง Kintetsu Osaka Loop Line จากสถานี Tsuruhashi (鶴橋) ไปเรื่อย ๆ
พอถึงสถานี Nagase (長瀬) ก็ลงได้เลยค่ะ ถึงแล้ว~
คินไดตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีนี้แหละ
(ระหว่างทางได้นั่งรถไฟร่วมกับหนุ่ม ๆ สาว ๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยด้วยนะคะ
บรรยากาศดี๊ดีล่ะค่ะ )
ในที่สุดก็มาถึงสถานี Nagase แล้วค่ะ สถานีนี้เป็นสถานีเงียบ ๆ มีทางออกทางเดียว
จะเห็นว่าใต้ชื่อสถานี จะมีชื่อมหาลัยคินคิในวงเล็บอยู่นะคะ เพราะงั้นสถานีนี้ไม่ผิดแน่นอน
พอเดินออกมาจากสถานีเราก็จะเห็นภาพแบบนี้ค่ะ
ก็ให้ข้ามทางม้าลายตรงหน้าไปได้เลย
จากนั้นก็ให้เดินผ่านซุ้มประตูนี้ แล้วตรงตามถนนหลักที่เห็นนี่ไปเลยค่ะ
พอเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอ 7-11 อยู่ฝั่งซ้ายของถนน ตรงนี้ให้เลี้ยวขวาค่ะ
แล้วก็ตรงยาวไปเลยค่ะ
เดินตรงไปเรื่อย ๆ นะคะ ระยะทางที่เราเช็คมา
จากสถานี Nagase ถึงคินได ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ
เราใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีได้ (มั้ง...) ...รวมหลงด้วย...
เราก็จะเจอซุ้มประตูอันคุ้นเคย...นี่มันซาเมะสึกะนี่นา!!
(เห็นมั้ยคะ...ที่สุดทางนั่น)
แอบกระซิบนิดนึง...คือถ้าใครไม่แน่ใจ กลัวหลง อยากใช้ Map ในมือถือก็ได้นะคะ
แต่เราลองใช้ Google Map แล้วมันพาเราอ้อมไปเข้าประใหญ่ของคินไดค่ะ
ซึ่งไม่ใช่ประตูที่เราต้องการจะไปตามรอย
แถมยังไกลกว่าเกือบอีกเท่าตัวด้วย เราก็เลยอยากแนะนำให้ไปตามทางที่เราบอกนะคะ
นักศึกษาก็เดินทางนี้กันค่ะ
อ่อ ๆ ใช่ค่ะ มันมีอีกวิธีที่จะเดินไปถึงคินไดได้แบบสบาย ๆ อยู่นะคะ
เดินตามนักศึกษาไปเลยค่ะ
แถวนี้ดูไม่ใช่ย่านที่วัยรุ่นจะมาเดินเที่ยวเล่นกัน
เพราะงั้นถ้าเห็นวัยรุ่น แต่งตัวตามแฟชั่นหน่อย ก็ให้เดา ๆ ไว้ได้เลยค่ะว่าเป็นนักศึกษา
ถ้าไม่มั่นใจก็ลองเดินตามไปซักคนนึง
เดี๋ยวก็จะมีนักศึกษาเหมือน ๆ กันโผล่มาทางเดียวกันนี่แหละค่ะ
จริง ๆ เล็ง ๆ ไว้ตั้งแต่บนรถไฟก็ได้นะคะ
ถ้าลงสถานีเดียวกันก็ตามไปเลยค่ะ ได้อาหารตาไปด้วยในตัวนะคะ (เอ๊ะ)
อันนี้จะเป็นซุ้มประตูที่ถ่ายจากทางด้านในมหาวิทยาลัยนะคะ
เสียดายที่ตอนเราไป มหาวิทยาลัยกำลังก่อสร้างทั้งบริเวณซุ้มประตูและภายในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ
เวลาถ่ายรูปก็เลยติดทั้งแผงกัน ทั้งคนงานก่อสร้าง
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรามาแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรเท่าไหร่ เพราะใจนี่อิ่มเอมมากค่ะ
อันนี้เป็นความอเนจอนาถของเราเองค่ะ
ไม่ได้เตรียมปรินท์รูปหรืออะไรไปเทียบเลย
พกไปแต่มันจู เลยต้องหยิบเอารูปในมือถือมาลองเทียบดู
สรุป...ไม่ประสบผลสำเร็จค่ะ แดดจ้าเกินไป ภาพในมือถือเลยเห็นไม่ชัดเลย
แต่...อย่างน้อยก็ถือว่าได้พยายามเนอะคะ
แล้วเราก็ควักมันจูออกมาถ่ายรูปกันที่หน้าประตูเลยค่ะ
ถึงจะมีคนเดินเข้าออกมหาวิทยาลัยไม่เยอะ แต่ก็แอบเขินอยู่เหมือนกันนะคะ
เลยได้รูปมาแค่นิดหน่อย อีกอย่างมันหามุมถ่ายค่อนข้างยากด้วยแหละค่ะ
(นี่ก็ย้อนแสงซะมืดไปหมด...)
ตรงนี้เป็นลานที่โซรินนั่งคุยกันค่ะ อยู่ไม่ไกลจากซุ้มประตูเมื่อกี้เลย
ตอนที่เดินเข้าซุ้มประตูมา จะเห็นตึกอยู่ตรงหน้าตึกนึง
ลานนี้อยู่ข้างหลังตึกนั้นเลยค่ะ
สรุปก็คือ...เดินเข้าซุ้มประตูมา แล้วเลี้ยวซ้าย
เดินไปนิดนึง แล้วเลี้ยวขวา
พอพ้นช่วงตึก ลานนี้จะอยู่ขวามือค่ะ
(จริง ๆ ทางมันบังคับอยู่แล้ว ลานนี้หาง่ายมากค่ะ)
แดดจ้ามากจริงๆยอมใจเลยค่ะ
แต่ยังไงก็ต้องมีรูปมันจูตรงนี้ ไม่มีไม่ได้เลย สถานที่สำคัญของโซรินทั้งทีนะคะ
อันนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากอีกฝั่งนึงของลานค่ะ
จริง ๆ เราดื่มด่ำกับลานตรงนี้นานทีเดียวนะคะ เดินดูไปก็นึกถึงโซรินไป สติหลุดไปเรียบร้อยค่ะ
ได้มาอีกรูป ก่อนที่เราจะย้ายไปเยี่ยมชมตรงอื่นกัน
ตอนแรกตั้งใจว่าจากลานโซริน (ตั้งชื่อให้เฉยเลย ฮ่าๆๆ) เราจะไปโรงอาหารต่อค่ะ
เราก็เลยออกเดินหาโรงอาหาร แต่ก่อนจะเจอโรงอาหารก็ได้เดินชมตึกของมหาวิทยาลัยไปด้วยเลย
กะว่าคงจะเจอตึกที่มีโค้ง ๆ แบบในรูป ที่โซรินแท็กมือกันใน FREE! ES ตอนที่ 2
คือตรงนี้มันก็เหมือนนะคะ เป็นตึกทรงเดียวกันเลย แต่มันไม่โปร่ง
ใต้ตึกมันมีร้านอะไรซักอย่างนึง(?)อยู่ ก็เลยไปเดินหาอีก มันก็ไม่มีตึกแบบนี้แล้ว
แต่ๆๆ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าช่วงนี้เค้าซ่อมแซมตึกกันอยู่
เพราะงั้นเราเลยไม่รู้ว่า จริง ๆ ตึกที่เราหามันอยู่ในส่วนที่ปิดซ่อมแซมอยู่รึป่าวน่ะค่ะ
(แต่จากที่ไปส่องแฟนๆญี่ปุ่นมา เค้าก็ถ่ายรูปกันตรงนี้แหละค่ะ )
ยังค่ะ ยังไม่เจอ เราเดินจนทั่วพื้นที่ของมหาวิทยาลัยที่สามารถเดินได้เลยนะคะ
เดินจนไปโผล่ประตูอีกฝั่งของมหาวิทยาลัยเลย
แดดก็แรงมาก ถึงจะไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่แดดจ้าจนแสบตา
เราเลยตัดสินใจถามคุณป้าแม่บ้าน (มั้ง...) ที่เดินผ่านมา
ได้ความว่า...มันอยู่ติดกับลานโซรินค่ะ!!
นี่เป็นรูปลานโซรินเมื่อกี้จากอีกมุมนะคะ
ตึกข้างหน้าเรานี่แหละค่ะ โรงอาหารตั้งอยู่ตรงนั้นแหละค่ะ!
จำตึกที่เราบอกว่าจะเจอตอนเราเดินผ่านซุ้มประตูมาได้มั้ยคะ
ถ้าเราเดินไปตามแนวตึก เลาะลานโซรินไปจนสุดตึก (ซึ่งสั้นมาก)
เราก็จะเจอทางลงมาโรงอาหารเลยค่ะ
เอาเป็นว่า...ถ้าหาไม่เจอก็คิดไว้นะคะว่ามันอยู่ติดลานนี้แหละ
อย่าไปที่อื่นค่ะ...คุณจะหลงเหมือนเรา ฮาาาา
โรงอาหารอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ เข้าประตูไปก็จะเจอโรงอาหารเลย
ต้องขอบคุณคุณป้าที่เราถามทางมากนะคะ
คุณป้าใจดีมากค่ะ ค่อย ๆ พาเราเดินมาจนสามารถชี้ให้เราเห็นตึกนี้ได้
ทริปนี้ประทับใจคนที่โอซาก้ามากเลยค่ะ
ส่วนนี่เป็นรูปภายในโรงอาหารนะคะ โรงอาหารไม่ใหญ่ค่ะ
ช่วงที่เราไปยังไม่เที่ยง คนน้อยมาก ๆ
เรานั่งอยู่จนถึงตอนเที่ยงก็มีคนทยอยมาเพิ่มเรื่อย ๆ นะคะ แต่ก็ยังไม่เยอะอยู่ดี
ตอนไปถึงไม่หิวเลยค่ะ แต่มาถึงโรงอาหารก็ต้องกินสิคะ
ก็เลยกดตู้ได้คัตสึด้งมา
จริง ๆ ถ้าจะกินแบบโซรินต้องสั่งเป็นเซ็ตนะคะ
เห็นคนมาทีหลังเราเค้าสั่งเซ็ตทงคัตสึมากิน
เราเห็นว่ามันมีเซ็ตให้สั่ง แต่เราไม่รู้ว่ามันสั่งทงคัตสึได้
เลยไม่ได้สั่งทงคัตสึมาให้โซสึเกะเลย
โซคุง ถ่ายรูปกับคัตสึด้งไปก่อนน้าาา
ขอรูปคู่เจ้าถิ่น (?) ซักรูปก่อนกลับ
อ่อ ตอนเราไป อาหารที่ให้กดซื้อที่ตู้มีไม่เยอะนะคะ
ไม่รู้ว่าต้องมาสั่งเองยังไงรึป่าว ใครทราบยังไงกระซิบบอกมั่งนะคะ
คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะได้ไปสั่งใหม่ ฮี่ ๆ
ดูเวลาแล้ว เพิ่งเที่ยงกว่า ๆ เราก็เดินทั่วมหาวิทยาลัยซะแล้ว
เลยตัดสินออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อจะไปต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิต่อค่ะ
เพราะจากสถานีนางาเสะไปต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิค่อนข้างไกลพอสมควร
ตอนกลับเราก็กลับทางที่เดินมาเมื่อเช้าแหละค่ะ
ก็จะเจอสถานี Nagase ที่เราออกมาอยู่ตรงหน้า
อย่าเผลอเดินเข้าไปทางที่เราออกมานะคะ
ให้เดินเลยสถานีไปข้ามทางรถไฟ แล้วไปขึ้นรถไฟจากอีกฝั่งนะคะ
เพราะเราจะกลับไปทางเดิมค่ะ
พอข้ามทางรถไฟตรงนี้ ก็เดินไปเข้าสถานี Nagase
เพื่อรอรถไฟไปตามรอยโรงเรียนอิวาโทบิกันต่อค่ะ!
พอมานั่งนึก นั่งเล่าแบบนี้แล้ว รู้เลยค่ะ ว่าความจำเรากับที่นี่ค่อนข้างชัดมาก
แอบรู้สึกว่าจำทางไปคินคิไดได้แม่นกว่าตอนไปมหาวิทยาลัยตัวเองครั้งแรก ๆ ซะอีกค่ะ
ไว้คราวหน้าจะมาเมาท์เรื่องต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิต่อนะคะ
ชาร์จพลังงานแป๊บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น