วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[ตามรอยอนิเมะ] Part.2 - Free! ต้นแบบโรงเรียนซาเมะสึกะ (鮫柄学園) -


   กลับมาเมาท์ต่อ 


ตามคาด...เนื่องจากตอนกลางคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว~ (อ้างอิงจาก Part.1)

จากที่เราวางแผนไว้ว่าจะออกไปเที่ยวตั้งแต่เก้าโมงเช้า เอาเข้าจริงเก้าโมงนี่เพิ่งตื่นเลยค่ะ 

ตามแผนที่วางไว้แบบเผื่อเวลาสุด ๆ วันนี้เราจะไปทั้งหมด 3 ที่

คือ มหาวิทยาลัยคินคิ, ต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง

แต่บล็อกนี้เราจะเล่าแค่ที่แรก คือ มหาวิทยาลัยคินคิ 

(Edit: ล่าสุดช่วงปี 2016 มหาวิทยาลัยคินดิ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยคินได แล้วนะคะ) 

 มหาวิทยาลัยคินคิ (ต้นแบบซาเมะสึกะกักคุเอ็น) 


มหาวิทยาลัยคินคิ เป็นสถานที่ต้นแบบของซาเมะสึกะกักคุเอ็น (鮫柄学園)

หรือก็คือโรงเรียนที่ริน โซสึเกะ ไอ และพี่น้องมิโคชิบะเรียนอยู่นั่นเองค่ะ  

ต่อจากนี้เราของเรียกที่นี่ว่า "คินได" แล้วกันนะคะ

 การเดินทางไปคินได 


เราจะเริ่มแบบกลาง ๆ แล้วกันเนอะ

(จริงๆกูเกิ้ลเอาก็ได้ แต่อยากเล่า  )

โดยจะตั้งต้นที่รถไฟสาย Osaka Loop Line ก่อน

เอาง่าย ๆ ก็ขึ้นจากสถานนีไหนก็ได้ที่ Osaka Loop Line ผ่าน

นั่ง Osaka Loop Line ไปลงสถานี Tsuruhashi (鶴橋)

พอมาถึงสถานี Tsuruhashi ให้เปลี่ยนสายรถไฟ
จาก Osaka Loop Line ไปเป็น Kintetsu Osaka Loop Line

   ตรงนี้ถ้างง ไม่รู้จะเปลี่ยนสายรถไฟตรงไหนก็ตรงไปถามเจ้าหน้าที่เลยค่ะ เร็วสุด... 

เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟแถบคันไซที่เราเจอน่ารักทุกคนนะคะ 

(ไม่เหมือนที่นาโงย่า เจ้าหน้าที่ชอบทำหน้าดุใส่ *แอบเม้าท์*)

ง่าย ๆ ก็แค่พูดชื่อสถานีปลายทางที่เราจะไปเลยค่ะ เค้าก็จะบอกเราว่าต้องไปทางไหน 

จากนั้นก็นั่ง Kintetsu Osaka Loop Line จากสถานี  Tsuruhashi (鶴橋) ไปเรื่อย ๆ

พอถึงสถานี Nagase (長瀬) ก็ลงได้เลยค่ะ ถึงแล้ว~

คินไดตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีนี้แหละ 

(ระหว่างทางได้นั่งรถไฟร่วมกับหนุ่ม ๆ สาว ๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยด้วยนะคะ

 บรรยากาศดี๊ดีล่ะค่ะ )
 
  

ในที่สุดก็มาถึงสถานี Nagase แล้วค่ะ สถานีนี้เป็นสถานีเงียบ ๆ มีทางออกทางเดียว

จะเห็นว่าใต้ชื่อสถานี จะมีชื่อมหาลัยคินคิในวงเล็บอยู่นะคะ เพราะงั้นสถานีนี้ไม่ผิดแน่นอน 


พอเดินออกมาจากสถานีเราก็จะเห็นภาพแบบนี้ค่ะ

ก็ให้ข้ามทางม้าลายตรงหน้าไปได้เลย 


จากนั้นก็ให้เดินผ่านซุ้มประตูนี้ แล้วตรงตามถนนหลักที่เห็นนี่ไปเลยค่ะ 

พอเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอ 7-11 อยู่ฝั่งซ้ายของถนน ตรงนี้ให้เลี้ยวขวาค่ะ

แล้วก็ตรงยาวไปเลยค่ะ 


เดินตรงไปเรื่อย ๆ นะคะ ระยะทางที่เราเช็คมา

จากสถานี Nagase ถึงคินได ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ

เราใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีได้ (มั้ง...) ...รวมหลงด้วย...

เราก็จะเจอซุ้มประตูอันคุ้นเคย...นี่มันซาเมะสึกะนี่นา!! 

(เห็นมั้ยคะ...ที่สุดทางนั่น)

 แอบกระซิบนิดนึง...คือถ้าใครไม่แน่ใจ กลัวหลง อยากใช้ Map ในมือถือก็ได้นะคะ

แต่เราลองใช้ Google Map แล้วมันพาเราอ้อมไปเข้าประใหญ่ของคินไดค่ะ

ซึ่งไม่ใช่ประตูที่เราต้องการจะไปตามรอย

แถมยังไกลกว่าเกือบอีกเท่าตัวด้วย เราก็เลยอยากแนะนำให้ไปตามทางที่เราบอกนะคะ

นักศึกษาก็เดินทางนี้กันค่ะ 

อ่อ ๆ ใช่ค่ะ มันมีอีกวิธีที่จะเดินไปถึงคินไดได้แบบสบาย ๆ อยู่นะคะ 

เดินตามนักศึกษาไปเลยค่ะ

แถวนี้ดูไม่ใช่ย่านที่วัยรุ่นจะมาเดินเที่ยวเล่นกัน

เพราะงั้นถ้าเห็นวัยรุ่น แต่งตัวตามแฟชั่นหน่อย ก็ให้เดา ๆ ไว้ได้เลยค่ะว่าเป็นนักศึกษา

ถ้าไม่มั่นใจก็ลองเดินตามไปซักคนนึง 

เดี๋ยวก็จะมีนักศึกษาเหมือน ๆ กันโผล่มาทางเดียวกันนี่แหละค่ะ

จริง ๆ เล็ง ๆ ไว้ตั้งแต่บนรถไฟก็ได้นะคะ

ถ้าลงสถานีเดียวกันก็ตามไปเลยค่ะ ได้อาหารตาไปด้วยในตัวนะคะ (เอ๊ะ) 


อันนี้จะเป็นซุ้มประตูที่ถ่ายจากทางด้านในมหาวิทยาลัยนะคะ

เสียดายที่ตอนเราไป มหาวิทยาลัยกำลังก่อสร้างทั้งบริเวณซุ้มประตูและภายในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ

เวลาถ่ายรูปก็เลยติดทั้งแผงกัน ทั้งคนงานก่อสร้าง
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรามาแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรเท่าไหร่ เพราะใจนี่อิ่มเอมมากค่ะ 


อันนี้เป็นความอเนจอนาถของเราเองค่ะ  

ไม่ได้เตรียมปรินท์รูปหรืออะไรไปเทียบเลย

พกไปแต่มันจู เลยต้องหยิบเอารูปในมือถือมาลองเทียบดู

สรุป...ไม่ประสบผลสำเร็จค่ะ แดดจ้าเกินไป  ภาพในมือถือเลยเห็นไม่ชัดเลย 

แต่...อย่างน้อยก็ถือว่าได้พยายามเนอะคะ 


แล้วเราก็ควักมันจูออกมาถ่ายรูปกันที่หน้าประตูเลยค่ะ

ถึงจะมีคนเดินเข้าออกมหาวิทยาลัยไม่เยอะ แต่ก็แอบเขินอยู่เหมือนกันนะคะ 

เลยได้รูปมาแค่นิดหน่อย อีกอย่างมันหามุมถ่ายค่อนข้างยากด้วยแหละค่ะ 

(นี่ก็ย้อนแสงซะมืดไปหมด...)


ตรงนี้เป็นลานที่โซรินนั่งคุยกันค่ะ อยู่ไม่ไกลจากซุ้มประตูเมื่อกี้เลย

ตอนที่เดินเข้าซุ้มประตูมา จะเห็นตึกอยู่ตรงหน้าตึกนึง

ลานนี้อยู่ข้างหลังตึกนั้นเลยค่ะ

สรุปก็คือ...เดินเข้าซุ้มประตูมา แล้วเลี้ยวซ้าย 

เดินไปนิดนึง แล้วเลี้ยวขวา

 พอพ้นช่วงตึก ลานนี้จะอยู่ขวามือค่ะ

(จริง ๆ ทางมันบังคับอยู่แล้ว ลานนี้หาง่ายมากค่ะ)


แดดจ้ามากจริงๆยอมใจเลยค่ะ 

แต่ยังไงก็ต้องมีรูปมันจูตรงนี้ ไม่มีไม่ได้เลย สถานที่สำคัญของโซรินทั้งทีนะคะ 


อันนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากอีกฝั่งนึงของลานค่ะ

จริง ๆ เราดื่มด่ำกับลานตรงนี้นานทีเดียวนะคะ เดินดูไปก็นึกถึงโซรินไป สติหลุดไปเรียบร้อยค่ะ 


ได้มาอีกรูป ก่อนที่เราจะย้ายไปเยี่ยมชมตรงอื่นกัน 


ตอนแรกตั้งใจว่าจากลานโซริน (ตั้งชื่อให้เฉยเลย ฮ่าๆๆ) เราจะไปโรงอาหารต่อค่ะ

เราก็เลยออกเดินหาโรงอาหาร แต่ก่อนจะเจอโรงอาหารก็ได้เดินชมตึกของมหาวิทยาลัยไปด้วยเลย

กะว่าคงจะเจอตึกที่มีโค้ง ๆ แบบในรูป ที่โซรินแท็กมือกันใน FREE! ES ตอนที่ 2

คือตรงนี้มันก็เหมือนนะคะ เป็นตึกทรงเดียวกันเลย แต่มันไม่โปร่ง

ใต้ตึกมันมีร้านอะไรซักอย่างนึง(?)อยู่ ก็เลยไปเดินหาอีก มันก็ไม่มีตึกแบบนี้แล้ว

แต่ๆๆ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าช่วงนี้เค้าซ่อมแซมตึกกันอยู่

เพราะงั้นเราเลยไม่รู้ว่า จริง ๆ ตึกที่เราหามันอยู่ในส่วนที่ปิดซ่อมแซมอยู่รึป่าวน่ะค่ะ 

(แต่จากที่ไปส่องแฟนๆญี่ปุ่นมา เค้าก็ถ่ายรูปกันตรงนี้แหละค่ะ )

เอาล่ะค่ะ เราหาโรงอาหารอยู่ใช่มั้ยคะ

ยังค่ะ ยังไม่เจอ  เราเดินจนทั่วพื้นที่ของมหาวิทยาลัยที่สามารถเดินได้เลยนะคะ 

เดินจนไปโผล่ประตูอีกฝั่งของมหาวิทยาลัยเลย

แดดก็แรงมาก ถึงจะไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่แดดจ้าจนแสบตา

เราเลยตัดสินใจถามคุณป้าแม่บ้าน (มั้ง...) ที่เดินผ่านมา

ได้ความว่า...มันอยู่ติดกับลานโซรินค่ะ!! 


นี่เป็นรูปลานโซรินเมื่อกี้จากอีกมุมนะคะ

ตึกข้างหน้าเรานี่แหละค่ะ โรงอาหารตั้งอยู่ตรงนั้นแหละค่ะ!

จำตึกที่เราบอกว่าจะเจอตอนเราเดินผ่านซุ้มประตูมาได้มั้ยคะ

ถ้าเราเดินไปตามแนวตึก เลาะลานโซรินไปจนสุดตึก (ซึ่งสั้นมาก)

เราก็จะเจอทางลงมาโรงอาหารเลยค่ะ

เอาเป็นว่า...ถ้าหาไม่เจอก็คิดไว้นะคะว่ามันอยู่ติดลานนี้แหละ 
อย่าไปที่อื่นค่ะ...คุณจะหลงเหมือนเรา ฮาาาา 


โรงอาหารอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ เข้าประตูไปก็จะเจอโรงอาหารเลย

ต้องขอบคุณคุณป้าที่เราถามทางมากนะคะ

คุณป้าใจดีมากค่ะ ค่อย ๆ พาเราเดินมาจนสามารถชี้ให้เราเห็นตึกนี้ได้
ทริปนี้ประทับใจคนที่โอซาก้ามากเลยค่ะ 


ส่วนนี่เป็นรูปภายในโรงอาหารนะคะ โรงอาหารไม่ใหญ่ค่ะ

ช่วงที่เราไปยังไม่เที่ยง คนน้อยมาก ๆ

เรานั่งอยู่จนถึงตอนเที่ยงก็มีคนทยอยมาเพิ่มเรื่อย ๆ นะคะ แต่ก็ยังไม่เยอะอยู่ดี


ตอนไปถึงไม่หิวเลยค่ะ แต่มาถึงโรงอาหารก็ต้องกินสิคะ 

ก็เลยกดตู้ได้คัตสึด้งมา

 จริง ๆ ถ้าจะกินแบบโซรินต้องสั่งเป็นเซ็ตนะคะ 

เห็นคนมาทีหลังเราเค้าสั่งเซ็ตทงคัตสึมากิน

เราเห็นว่ามันมีเซ็ตให้สั่ง แต่เราไม่รู้ว่ามันสั่งทงคัตสึได้

เลยไม่ได้สั่งทงคัตสึมาให้โซสึเกะเลย 
โซคุง ถ่ายรูปกับคัตสึด้งไปก่อนน้าาา 


ขอรูปคู่เจ้าถิ่น (?) ซักรูปก่อนกลับ

อ่อ ตอนเราไป อาหารที่ให้กดซื้อที่ตู้มีไม่เยอะนะคะ 

ไม่รู้ว่าต้องมาสั่งเองยังไงรึป่าว ใครทราบยังไงกระซิบบอกมั่งนะคะ
คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะได้ไปสั่งใหม่ ฮี่ ๆ 


ดูเวลาแล้ว เพิ่งเที่ยงกว่า ๆ เราก็เดินทั่วมหาวิทยาลัยซะแล้ว

เลยตัดสินออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อจะไปต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิต่อค่ะ

เพราะจากสถานีนางาเสะไปต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิค่อนข้างไกลพอสมควร

ตอนกลับเราก็กลับทางที่เดินมาเมื่อเช้าแหละค่ะ

ก็จะเจอสถานี Nagase ที่เราออกมาอยู่ตรงหน้า

อย่าเผลอเดินเข้าไปทางที่เราออกมานะคะ

ให้เดินเลยสถานีไปข้ามทางรถไฟ แล้วไปขึ้นรถไฟจากอีกฝั่งนะคะ

เพราะเราจะกลับไปทางเดิมค่ะ 



พอข้ามทางรถไฟตรงนี้ ก็เดินไปเข้าสถานี Nagase

เพื่อรอรถไฟไปตามรอยโรงเรียนอิวาโทบิกันต่อค่ะ!

อ่าห์...เมาท์เรื่องไปคินไดนี่ใช้พลังงานเยอะกว่าที่คิดนะคะ

พอมานั่งนึก นั่งเล่าแบบนี้แล้ว รู้เลยค่ะ ว่าความจำเรากับที่นี่ค่อนข้างชัดมาก

แอบรู้สึกว่าจำทางไปคินคิไดได้แม่นกว่าตอนไปมหาวิทยาลัยตัวเองครั้งแรก ๆ ซะอีกค่ะ

ไว้คราวหน้าจะมาเมาท์เรื่องต้นแบบโรงเรียนอิวาโทบิต่อนะคะ

ชาร์จพลังงานแป๊บ